เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้ โดยไม่มีการเคลือบอะไรเลย
เวลาโดนน้ำบ่อยๆ ก็อาจจะเนื้อไม้ดำ และขึ้นราได้
แล้วถ้าปล่อยไว้นานเข้า ก็ทำให้ไม้ผุได้เหมือนกัน
การเคลือบผิวไม้ง่ายๆ เลยก็คงหนีไม่พ้น "แชล็ค"
แต่ฟิล์มของแชล็คค่อนข้างบาง ถ้าอยากจะใช้ยาวๆ
แนะนำให้เคลือบด้วย "แลคเกอร์" ไปเลยครับ
แล้วควรจะใช้แลคเกอร์เงา หรือ แลคเกอร์ด้านดีล่ะ
เริ่มต้นผมแนะนำให้ลองใช้แลคเกอร์เงาก่อนครับ
เพราะฟิล์มจะหนากว่า ใช้งานง่าย และปัญหาน้อย
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1. แปรงขนต่าย (ขนาดตามถนัด)
2. แลคเกอร์เงา (ยี่ห้ออะไรก็ได้)
3. ทินเนอร์ AAA
แปรงขนกระต่ายถ้าซื้อมาใหม่ๆ ขนจะหลุดเยอะมาก
แนะนำให้ทำตามคลิปนี้ก่อน "วิธีการทำไม่ให้ขนแปรงหลุด"
ก่อนจะทาแลคเกอร์ จำเป็นต้องรองพื้นด้วยแชล็คก่อน
เพราะแชล็คจะช่วยกันยางไม้ ไม่ให้แลคเกอร์มีปัญหา
แถมยังช่วยไม่ให้ไม้ดูดสี ทำให้สีขึ้นง่าย และประหยัดขึ้น
ผสมแลคเกอร์เงา กับ ทินเนอร์ ประมาณ 1 ต่อ 2 ส่วน
คนให้เข้ากัน เสร็จแล้วให้ลองทากับเศษไม้ดูก่อน
ถ้าทาแล้วฝืดมือ แปลว่า "ข้นไป" ให้เต็มทินเนอร์ลงไปอีก
แต่ถ้าทาแล้วไหลเยิ้ม แปลว่า "บางไป" ให้เต็มแลคเกอร์แทน
ควรทาอย่างน้อย 2-3 รอบขึ้นไป แต่ละรอบต้องรอให้แห้งสนิท
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า ควรจะทาแลคเกอร์กี่รอบถึงจะพอ
ลองเอามือลูบดู ถ้าไม่รู้สึกถึงเสี้ยนไม้แล้ว ถือว่าใช้ได้ครับ
ต่อไปก็ถึงเวลาการใช้แลคเกอร์ด้านกันแล้วครับ
ถามว่าทำไมเราถึงไม่ทาแลคเกอร์ด้านเลย
แลคเกอร์ด้านมีฟิล์มที่ค่อนข้างบาง ปกป้องเนื้อได้ไม่ค่อยดี
แต่ถ้าใครอยากจะทาไว้สำหรับสวยงามก็ได้ครับ ไม่ว่ากัน
วิธีผสมก็เหมือนแลคเกอร์เงาเลยครับ แต่ต้องให้บางกว่าหน่อย
เวลาทาต้องให้รู้สึกลื่นมือ เพราะจะได้ไม่เป็นรอยแปรง
ทาประมาณ 2-3 เที่ยว ให้สังเกตดูว่าด้านทั่วหรือยัง
ถ้าอยากให้ออกกึ่งเงา ให้ผสมแลคเกอร์เงาลงไปหน่อยนึงครับ
0 ความคิดเห็น