1. TOA Shellac ชนิดใส
จุดเด่น:
- เนื้อบาง ใช้งานง่าย
- แห้งเร็ว เหมาะกับงานเร่งด่วน
- สีใส ไม่กลบลายไม้
เหมาะกับ: งานตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์ไม้เบา DIY เช่น ตู้ โต๊ะเล็ก
ราคาโดยประมาณ: 250-300 บาท/กระป๋อง 1 ลิตร
2. Beger Shellac สูตรเข้มข้น
จุดเด่น:
- ให้ผิวเงางามแบบคลาสสิก
- ติดทนนาน
- ทาทับได้หลายชั้นโดยไม่ด่าง
เหมาะกับ: งานเฟอร์นิเจอร์หรู งานโชว์ลายไม้ งานซ่อมของเก่า
ราคาโดยประมาณ: 280-350 บาท/ลิตร
3. Nippon Shellac (สูตรธรรมชาติ)
จุดเด่น:
- วัตถุดิบจากธรรมชาติ ปลอดภัย กลิ่นน้อย
- เหมาะกับผู้แพ้ง่าย
- ใช้ได้กับของเล่นเด็ก เฟอร์นิเจอร์ในบ้าน
เหมาะกับ: งาน DIY ที่ต้องการปลอดสารพิษ เช่น ของใช้เด็ก หรือของตกแต่งภายใน
ราคาโดยประมาณ: 300-400 บาท/ลิตร
4. Woodtect Shellac สูตรแห้งเร็ว
จุดเด่น:
- ใช้เวลาแห้งเพียง 15-30 นาที
- ผิวเนียน ลื่น
- พ่นหรือทาได้ทั้งสองแบบ
เหมาะกับ: งานที่ต้องการความเร็ว เช่น งานรับจ้าง หรือผลิตจำนวนมาก
ราคาโดยประมาณ: 270-320 บาท/ลิตร
เคล็ดลับก่อนซื้อ:
- ตรวจสอบ “วันหมดอายุ” ของแชล็ค – ถ้าเก่าเกินไปเนื้อจะแยกชั้น
- อ่านรีวิวผู้ใช้งานจริงใน Shopee / Lazada / ร้านสี
- หากทาในที่อับ ควรเลือกแชล็คกลิ่นน้อยเพื่อความปลอดภัย
สรุป:หากคุณกำลังมองหาแชล็คสำหรับงานไม้ DIY ปี 2025 นี้- เลือก TOA หรือ Beger สำหรับงานตกแต่งภายใน- ใช้ Nippon สำหรับโปรเจกต์ที่ต้องการปลอดภัย เช่น ของเด็ก- เลือก Woodtect ถ้าคุณต้องการความรวดเร็วและผิวเนียนเรียบ
0 ความคิดเห็น